นิบาตชาดก เวสสันดรชาดก พระมาลัย (ปลาย)
เมื่อพระมาลัยนำดอกบัวไปนมัสการพระเจดีย์จุฬามณี ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระมาลัยได้สนทนากับพระอินทร์เรื่องบุพกรรมของเทวดาต่างๆ โดยเขียนภาพพระมาลัยนั่งบนเนินสูงชี้นิ้วไปทางเทวดาที่เหาะมานมัสการองค์เจดีย์จุฬามณี และถามพระอินทร์ (องค์ที่นั่งด้านหน้าพระมาลัย) ว่าเทวบุตรองค์นั้นเป็นใคร ทำไมถึงมีราศีอันเจิดจรัสเหนือเทวบุตรองค์อื่น พระอินทร์จึงตอบไปว่าเทวบุตรองค์นั้นคือพระศรีอาริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าในกัลป์ต่อไป พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 ในภัทรกัลป์) เหตุการณ์ถัดมา พระศรีอาริยเมตไตรยเหาะลงมานั่งสนทนาธรรมกับพระมาลัยและได้บอกพระมาลัยว่าหากชาวชมพูทวีปปรารถนาจะได้ไปเกิดในยุคของ จะต้องปฏิบัติตน อาทิ การรักษาศีล เจริญภาวนา การให้ทาน การฟังเทศน์มหาชาติ
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่บนยอดเขาพระสุเมรุซึ่งกำเนิดแม่น้ำสำคัญผ่านมาทางป่าหิมพานต์ โดยมีรูปสัตว์เป็นสัญลักษณ์แทน คือ สิงห์ ช้าง ม้า โค และพญานาคให้น้ำ เกิดเป็นแม่น้ำสำคัญ 5 สาย เรียกว่า “ปัญจมหานที” และรองรับด้วยปลาอานนท์
ถัดมาทางซ้ายเขียนเป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับสมาธิราบปางมารวิชัย พร้อมอัครสาวกซ้ายและขวา ประทับอยู่ในอาคารที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นไทยภาคกลาง เป็นหลังคาทรงจั่วอันประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ อีกทั้งแขวนโคมแบบล้านนาไว้ทั้งสองข้างของอาคาร ในกลุ่มภาพนี้สันนิษฐานว่าอาจเป็นตอนที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดนิโครธาราม แห่งเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งพระองค์ทรงเทศนาธรรมและตรัสว่าในอดีตเคยมีฝนโบกขรพรรษมาครั้งหนึ่ง แล้วจึงเล่าเรื่องพระเวสสันดร ให้แก่พระเจ้าสุทโธทนะและพระประยูรญาติแห่งศากยวงศ์